Tuesday, July 1, 2014

ปัญหาพฤติกรรมและอาการทางจิตในโรคอัลไซเมอร์ (BPSD)

ปัญหาพฤติกรรมและอาการทางจิตที่พบในโรคอัลไซเมอร์
(Behavioral and psychological symptoms in Alzheimer’s disease)

            โดยปกติแล้วหากพูดถึงโรคอัลไซเมอร์ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงอาการหลงลืมเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงแล้วพบว่าอาการของโรคอัลไซเมอร์นั้นมีหลายด้าน ซึ่งอาการด้านที่จะพูดถึงเป็นหลักในบทความนี้คืออาการด้านพฤติกรรมและอาการทางจิต


 (รูปจาก Harper L, et al. J Neurol Neurosurg Psychiatry 2014;85:692–698. doi:10.1136/jnnp-2013-306285)


ปัญหาพฤติกรรมและอาการทางจิตที่พบในโรคอัลไซเมอร์
               ปัญหาพฤติกรรมแลอาการทางจิตนั้นเป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก จากการศึกษาของผู้เขียน* พบได้มากกว่า 90% ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และจากประสบการณ์ในการทำงานพบว่า ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในประเทศไทยส่วนใหญ่นั้นญาติไม่ได้พามารักษาเพราะอาการหลงสืม แต่มักพามาเพราะผู้ป่วยมีปัญหาพฤติกรรมหรืออาการทางจิตมากกว่า

ปัญหาพฤติกรรมและอาการทางจิตที่พบได้บ่อย ๆ มีดังต่อไปนี้*
อาการหลงผิด (delusion) พบได้  30-40 %
อาการหูแว่วหรือประสาทหลอน (auditory hallucination and visual hallucination) พบได้ 20-30 %
ภาวะซึมเศร้า (depression) พบได้  40-50 %
อาการวิตกกังวล (anxiety) พบได้ 40 %
อาการเฉยเมยไม่สนใจสิ่งรอบตัว (apathy) พบได้ 70 %
พฤติกรรมไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ (disinhibition) พบได้30-40 %
อารมณ์หงุดหงิด โกรธ เปลี่ยนแปลงได้ง่าย (irritable) พบได้ 40%
พฤติกรรมทำอะไรแปลก ๆ (aberrant motor behavior) พบได้ 30-40 %
ปัญหาด้านการนอน (sleep problem) พบได้ 30-50 %
ปัญหาด้านการกิน (Appetite)  พบได้ประมาณ 40-50%

อาการหลงผิด (Delusion)
อาการหลงผิด (delusion)  พบได้ประมาณ 30% ถึง 40% และมักทำให้เกิดปัญหากับตัวผู้ป่วยเองและญาติได้ได้บ่อย ๆ 
อาการหลงผิดคืออะไร ?
อาการหลงผิด หรือ delusion นั้น แปลว่า “fixed false belief”  นั่นคือ ความเชื่ออย่างผิด ๆ ที่เปลี่ยนไม่ได้ (และไม่มีเหตุผล)  ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์อาการหลงผิดที่พบได้บ่อย ๆ  อาการหวาดระแวง (paranoid) เช่น  คิดว่ามีคนมาขโมยของไป (มักจะเกิดร่วมกับการที่ผู้ป่วยหลงลืม วางของแล้วจำไม่ได้) มีคนจะมาทำร้าย หรือ สามี/ภรรยาของเขามีชู้หรือนอกใจ  เป็นต้น

ตัวอย่าง
มีผู้ป่วยชายอายุประมาณ 65 ปี  อาศัยอยู่กับภรรยา และลูกชาย ลูกสาว  โดยลูกสาวเป็นคนพาบิดามาตรวจเนื่องจากผู้ป่วยระแวงว่าภรรยา (อายุ 65 เท่า ๆ กัน) นั้นมีอะไรกับคนงานในบ้าน  ระแวงจนไม่ยอมให้ภรรยาอยู่คนเดียว ต้องเดินตามตลอด เมื่อภรรยาไม่อยู่ด้วยก็จะหงุดหงิดตะโกนโวยวายกับคนในบ้านว่าภรรยาไปมีชู้  พยายามค้นข้าวของหาหลักฐานการมีชู้ของภรรยา  ผู้ป่วยยังบ่นบ่อย ๆ ว่ามีคนในบ้านขโมยของของเขา (โดยที่ลูกสาวบอกว่าจริง ๆ ของก็ไม่ได้ไปไหน ก็วางอยู่ในบ้านนั่นแหละ)  ลูกสาวพยายามที่จะอธิบายว่ามารดาไม่ได้เป็นอย่างนั้น  และก็อายุมากขนาดนี้แล้ว  แต่ผู้ป่วยเองก็ยังระแวงอยู่ตลอด ไม่ยอมเชื่อ ลูกทุกคนมายืนยันก็ไม่เชื่อ จนมีอารมณ์หงุดหงิดโวยวายมากขึ้น  ลูกสาวจึงตัดสินใจพาผู้ป่วยมาพบจิตแพทย์
หลังจากที่แพทย์ได้พูดคุยซักประวัติ และทำการทดสอบแล้ว พบว่า ผู้ป่วยมีอาการหลงลืมมาประมาณสองปี วางของแล้วจำไม่ได้ จำเรื่องที่พึ่งผ่านมาไม่ได้  แต่ที่บ้านคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนสูงอายุ สรุปวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ระยะเล็กน้อย (mild dementia) ซึ่งเมื่อได้รับการรักษาสักระยะหนึ่ง อาการหลงผิดก็หายไป
              
อาการหลงผิดอีกอันหนึ่งที่พบได้บ่อย ๆ และมักทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวก็คือ การคิดว่าคนในบ้านขโมยของ ซึ่งสิ่งนี้ หลาย ๆ ครั้งถึงกับทำให้เกิดการทะเลาะกัน  โดยคนที่หนีไม่พ้นจะถูกผู้ป่วยบอกว่าขโมยของไปก็มักจะเป็นคนที่ดูแลใกล้ชิดที่สุดนั่นแหละ  จนลูกหลานที่ดูแลหลายคนเสียใจท้อแท้  เพราะดูแลเหนื่อยยากแทบตาย  แต่ผู้ป่วยกลับไปพูดกับคนอื่นว่าตัวเองขโมยของในบ้านไป ... สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ สิ่งเหล่านี้เป็นอาการเจ็บป่วย เป็นอาการหนึ่งของโรค  ผู้ดูแลต้องเข้าใจ ไม่ผิดหวังหรือน้อยใจไปกับคำพูดของผู้ป่วย

อาการหูแว่วและประสาทหลอน (auditory hallucination and visual hallucination)
อาการหูแว่วและประสาทหลอนนั้นพบได้ประมาณ 20% - 30% ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาการหูแว่ว
อาการหูแว่วคืออะไร (auditory hallucination) คืออะไร ?
               คือการที่ผู้ป่วยได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง แต่ผู้ป่วยจะได้ยินเหมือนว่ามีเสียงนั้นจริง ๆ  โดยผู้ป่วยอาจจะเล่าให้ฟังว่ามีใครมาพูดอะไรด้วย หรือมีท่าทางพูดคนเดียวโดยที่ไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ
อาการเห็นภาพหลอน (visual hallucination) คืออะไร ?
               คือการที่ผู้ป่วยเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง  โดยผู้ป่วยอาจเคยพูดว่าเขาเห็นแปลกหน้าในบ้าน คนที่เสียชีวิตไปแล้ว หรืออาจเป็นสัตว์ สิ่งของก็ได้
               อาการทั้งสองอย่างนี้อาจทำให้ผู้ป่วยหวาดกลัว ตกใจ หรือบางครั้งทำให้มีปัญหากับญาติได้เพราะญาติเองเถียงกับผู้ป่วยว่ามันไม่มีจริง ซึ่งทำให้กระตุ้นอารมณ์และพฤติกรรมวุ่นวายของผู้ป่วยได้

               อาการหลงผิดและอาการหูแว่วนี้เป็นอาการที่พบได้ในโรคจิตเภท (schizophrenia) เช่นกัน ทำให้บ่อยครั้งที่พบว่าญาติหรือแพทย์ทั่วไปเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยเป็นโรคจิตเภท ซึ่งความจริงแล้วผู้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์

ภาวะซึมเศร้า (depression)
ภาวะซึมเศร้า  เป็นภาวะหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสมองเสื่อม ประมาณความชุกจากการศึกษาต่างๆ ได้สูงถึงร้อยละ 40-50 ในขณะที่ความชุกของโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุทั่วๆไป พบได้เพียงร้อยละ 1-5 เท่านั้น  
ผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าจะมี อารมณ์เศร้าเบื่อไม่อยากที่จะทำอะไร บางครั้งร้องไห้บ่อย ๆ  ไม่มีกำลังใจ รู้สึกตัวเองแย่เป็นภาระกับคนอื่น ท้อแท้ บางครั้งพูดว่าไม่อยากอยู่ อยากตาย หรืออยากฆ่าตัวตาย
โดยภาวะซึมเศร้าอาจนำมาก่อนการเกิดภาวะหลงลืม หรือเกิดภายหลังก็ได้   มีการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการซึมเศร้าเป็นครั้งแรกหลังอายุ 60 ปี เมื่อติดตามต่อไป 2 ปี ร้อยละ 40 จะมีเริ่มมีอาการของโรคอัลไซเมอร์ตามมาภายหลัง  

ภาวะวิตกกังวล (anxiety)
               ผู้ป่วยที่มีภาวะวิตกกังวล จะมีอาการ กังวลเกี่ยวในเรื่องหลาย ๆ เรื่อง เครียด คิดมาก หงุดหงิด บางครั้งอาจมีอาการใจสั่น ตกใจง่าย  บางคนเมื่อวิตกกังวลหรือกลัว จะพยายามเกาะติดกับผู้ดูแลตลอดไม่ยอมแยก ไม่ยอมอยู่คนเดียว

อาการเฉยเมยไม่สนใจสิ่งรอบตัว (apathy)
               ผู้ป่วยจะขาดความสนใจในสิ่งรอบ ๆ ตัว ไม่มีแรงจูงใจจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ดูเฉยเมยไม่สนใจ ไม่มีความอยากที่จะทำเริ่มทำอะไรด้วยตัวเอง เริ่มต้นคุยกับคนอื่นน้อยลง มีส่วนร่วมกับคนในครอบครัวหรือสังคมน้อยลง ไม่สนใจเพื่อน ๆ ไม่มีความกระตือรือร้นในสิ่งที่เคยชอบทำมาก่อน  ดังที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผู้สูงอายุที่ทั้งวันนั่งอยู่กับเก้าอี้ตัวเดิม นั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร

พฤติกรรมไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ (disinhibition)
            ผู้ป่วยจะทำอะไรแบบหุนหันพลันแล่นเหมือนไม่คิด เช่น ผู้ป่วยอาจพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักอย่างเหมือนสนิทสนม พูดเสียงดังหรือก้าวร้าวกับคนอื่นแบบที่ไม่ควรจะพูด หรือพูดเรื่องหยาบคายลามก หรือมีการแตะเนื้อต้องตัวคนอื่น(แต๊ะอั๋งนั่นแหละครับ) อย่างไม่เหมาะสม  หรือบางครั้งอาจเห็นการใช้เงินฟุ่มเฟือย เห็นอะไรก็ซื้อเลยไม่สามารถยับยั้งใจตัวเองได้ เป็นต้น

อารมณ์หงุดหงิด โกรธ เปลี่ยนแปลงได้ง่าย (irritable)
               ผู้ป่วยจะมีอารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย (กว่านิสัยเดิมที่เคยเป็น) อาจมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ไม่อดทน ควบคุมอารมณ์ไม่ได้แม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายจากอารมณ์ดีเป็นโมโหได้ในไม่กี่นาที ผู้ป่วยอาจดูเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นขัดใจไม่ได้ หรือชอบเถียง

พฤติกรรมแปลก ๆ (aberrant motor behavior)
               ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เมื่อมีอาการมาก ๆ หลาย ๆ คนพบพฤติกรรมแปลก ๆ ได้ เช่นเดินไปเดินมาซ้ำ ๆ โดยไม่มีจุดหมาย รื้อของออกมาแล้วจัดใหม่แล้วรื้ออีก หรือเอาของทั้งหมดในบ้านมากองรวมตรงกันกลางห้อง มีการทำอะไรซ้ำ ๆ เช่นเอาเสื้อมาใส่แล้วถอดแล้วใส่อีก หยิบของมาดูแล้ววางแล้วหยิบมาดูใหม่ บางคนผุดลุกผุดนั่งซ้ำ ๆ หรือบางคนอาจจะนั่งเล่นนิ้วมือตัวเองได้ทั้งวัน
               อีกอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนพบบ่อย ๆ คือการผู้ป่วยจะเก็บของต่าง ๆ บางครั้งก็เป็นขยะมาสะสมในบ้าน บางคนนั้นเก็บถุงพลาสติกมาเก็บสะสมในห้องเป็นหลายร้อยถุงจนรกไปหมด เป็นต้น

ปัญหาด้านการนอน (sleep problem)

ปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับในผู้ป่วยสมองเสื่อมนับว่าเป็นปัญหาสำคัญอันหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดสำหรับผู้ดูแลได้อย่างมาก เพราะทำให้ญาติต้องอดนอนไปด้วย  ซึ่งจากตรวจผู้ป่วยในประเทศพบว่าปัญหานี้เองที่มักจะทำให้ญาติต้องพาผู้ป่วยมารับการรักษา
โดยปัญหาการนอนที่พบบ่อย คือ ผู้ป่วยจะนอนหลับยาก หลับแล้วตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับอีก บางคนตื่นขึ้นมาเดินไปเดินมา หรือในบางคนพบว่าผู้ป่วยตื่นมากลางดึกตีสองแล้วอาบน้ำแต่งตัวไปทำกับข้าวเหมือนว่าเช้าแล้วจนลูก ๆ หลาน ๆ ตกใจ

ปัญหาด้านการกิน (appetite)
               ผู้ป่วยมักจะมีกินน้อยลง เบื่ออาหาร กินแต่ของซ้ำ ๆ เหมือนเดิมแทบทุกวัน จนบางคนน้ำหนักลดลงหลายกิโล แต่ในบางคนอาจจะพบปัญหาตรงกันข้ามคือกินมากและกินบ่อยครั้ง กินทุก 2-3 ชั่วโมง บางครั้งกินไปแล้วก็บอกว่าไม่ได้กิน จนบางทีพบว่าทำให้ลูกทะเลาะกันเนื่องจากอีกคนหนึ่งเข้าใจว่าลูกที่ดูแลไม่ให้แม่กินข้าว (แต่จริง ๆ คือให้กิน แต่คนไข้จำไม่ได้)

สรุป  ปัญหาทางพฤติกรรม และทางจิต ที่พบในผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นพบได้บ่อย และหลายครั้งเป็นอาการที่เห็นได้ชัดเจนมากกว่าอาการหลงลืมด้วยซ้ำ โดยปัญหาเหล่านี้จะมีผลกระทบและสร้างความเครียดให้กับครอบครัวและผู้ดูแลได้อย่างมาก และหลายครั้งมากกว่าตัวอาการความจำเสื่อมด้วยซ้ำ   การเข้ารับการรักษาทั้งด้วยการใช้ยาและไม่ใช้ยานั้นจะช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้ ดังนั้นหากใครสังเกตเห็นว่าญาติที่เป็นผู้สูงอายุมีอาการเหล่านี้ ก็ควรพามารับการปรึกษากับแพทย์ เพื่อจะได้เป็นการหาสาเหตุและให้การช่วยเหลือต่อไป


* เอกสารอ้างอิง Phanasathit Muthita, Charernboon Thammanard, Hemrungrojn S, Tangwongchai S, Phanthumchinda K. Prevalence of Neuropsychiatric Symptoms in Mild Cognitive Impairment and Alzheimer’s Disease. In: Mateos R, Engedal K, Franco M, eds. IPA 2010. Diversity, Collaboration, Dignity/Abstracts of the IPA International Meeting 1st ed. Santiago De Compostela: Universidade De Santiago De Compostela, 2010: 491-492